ใน Supernatural Season 11 โลกต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หลังจาก The Darkness (Amara) ซึ่งเป็นพลังโบราณที่เก่าแก่และทรงพลังที่สุดในจักรวาล ถูกปลดปล่อยออกมา ความมืดนี้คือตัวตนที่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า (Chuck) ในฐานะพี่สาวของพระองค์ เธอกลับมาพร้อมกับเป้าหมายที่จะทำลายล้างทุกสิ่งในจักรวาล รวมถึงแก้แค้นต่อพระเจ้าและเหล่าผู้ติดตาม
สองพี่น้อง ดีน (Jensen Ackles) และ แซม (Jared Padalecki) ต้องร่วมมือกันในภารกิจสุดยิ่งใหญ่เพื่อหยุดยั้ง Amara ก่อนที่เธอจะทำลายโลก พวกเขาต้องเจาะลึกลงไปในต้นกำเนิดของจักรวาล เพื่อค้นหาเบาะแสและวิธีการเอาชนะพลังที่ดูเหมือนไม่มีใครต้านทานได้
นอกจากภัยคุกคามจาก The Darkness พวกเขายังต้องเผชิญกับมอนสเตอร์เก่าและใหม่ที่โผล่ออกมาท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย
ในขณะเดียวกัน:
Castiel (Misha Collins) กำลังดิ้นรนกับพลังในตัวเองที่ถูกกระตุ้นโดยความมืด การต่อสู้ภายในจิตใจของเขาเกี่ยวข้องกับการใช้พลังเทพเจ้าที่อาจส่งผลเสียต่อตัวเขาเองและคนรอบข้าง Crowley (Mark Sheppard) อดีตราชาแห่งนรก ต้องเผชิญกับการสูญเสียอำนาจ และต้องตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมกับพี่น้องวินเชสเตอร์เพื่อต่อสู้กับ Amara หรือจะพยายามเอาตัวรอดด้วยตัวเอง
ในซีซั่นนี้ยังมีการเปิดเผยปริศนาใหม่ ๆ เกี่ยวกับต้นกำเนิดของพระเจ้า ความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์และ Amara รวมถึงแผนการที่จะเปลี่ยนอนาคตของจักรวาล
จุดเด่นของซีซั่นนี้:
การเล่าเรื่องที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยอารมณ์ ฉากต่อสู้กับพลังเหนือธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ การพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของพี่น้องวินเชสเตอร์และทีมของพวกเขา การเชื่อมโยงเรื่องราวในระดับจักรวาล ทำให้ Supernatural ก้าวไปอีกขั้น
Supernatural Season 11 จะนำพาคุณเข้าสู่การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่สะท้อนถึงความหมายของความหวัง ความเชื่อ และการเสียสละในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมนและอันตราย.