เรื่องราวหลักเน้นไปที่การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างความดีและความชั่วร้าย เมื่อ ลูซิเฟอร์ ถูกปลดปล่อยออกมาหลังจากเหตุการณ์ในซีซั่นที่ 4 สองพี่น้อง ดีน (Jensen Ackles) และ แซม (Jared Padalecki) ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่นี้ เนื่องจากโชคชะตาได้กำหนดให้ทั้งสองคนเป็น “โถสังเวย” สำหรับการต่อสู้ของเทวดาและปีศาจ เนื้อเรื่องย่อ:
หลังจากลูซิเฟอร์หลุดออกมาจากกรงนรก โลกก็ตกอยู่ในความโกลาหล สองพี่น้องวินเชสเตอร์ต้องร่วมมือกับ แคสเทียล (Misha Collins) เทวดาผู้ช่วยเหลือพวกเขา และพันธมิตรอื่นๆ เพื่อหาหนทางหยุดยั้งลูซิเฟอร์ไม่ให้เริ่มต้น “วันสิ้นโลก” ซึ่งจะนำมาซึ่งการทำลายล้างมนุษยชาติ พวกเขาต้องตามหาวิธีผนึกลูซิเฟอร์กลับลงไปในกรงอีกครั้ง โดยมีทั้ง โครว์ลีย์ (ราชาปีศาจคนใหม่) และผู้เล่นสำคัญอื่นๆ ที่เข้ามามีบทบาทในภารกิจครั้งนี้
ตลอดการเดินทาง พี่น้องวินเชสเตอร์ยังต้องต่อสู้กับปัญหาภายในจิตใจ ความผิดพลาดในอดีต และความสัมพันธ์ที่ถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง แซมต้องเผชิญกับความมืดในใจจากพลังปีศาจ ส่วนดีนต้องต่อสู้กับชะตากรรมที่บีบบังคับให้เขาต้องรับบทบาทสำคัญในสงครามครั้งนี้ ไฮไลท์สำคัญของซีซั่น 5:
การปรากฏตัวของลูซิเฟอร์: เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการทำลายโลก ซึ่งพี่น้องต้องหาทางหยุดยั้งให้ได้ แผนการของสวรรค์และนรก: การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ระหว่างมนุษย์กับปีศาจ แต่ยังเป็นแผนการใหญ่ระหว่าง เทวดา กับ ลูซิเฟอร์ บททดสอบความสัมพันธ์ของพี่น้อง: ความสัมพันธ์ระหว่างแซมและดีนถูกทดสอบอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่อแซมตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของปีศาจอีกครั้ง แคสเทียล: เทวดาผู้ไม่ยอมรับแผนการของสวรรค์ กลายเป็นพันธมิตรสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้ การเสียสละครั้งใหญ่: บทสรุปของซีซั่น 5 มีการเสียสละที่สะเทือนใจและทำให้ซีรีส์ก้าวไปสู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่
Supernatural Season 5 เป็นหนึ่งในซีซั่นที่แฟน ๆ ต่างยกย่องว่าเป็นจุดสูงสุดของซีรีส์ ด้วยเรื่องราวที่เข้มข้น การพัฒนาตัวละครที่สมบูรณ์ และการผสมผสานของความตื่นเต้น ดราม่า และอารมณ์ขันที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ซีซั่นนี้กลายเป็นตำนานที่ยากจะลืมสำหรับแฟน ๆ Supernatural